ไทย ยูเนี่ยน: คำมั่นสัญญาในการจับปลาทูน่าอย่างยั่งยืน

< กลับไปที่หน้าหลักความหลากหลายทางชีวภาพ

ไทย ยูเนี่ยน: คำมั่นสัญญาในการจับปลาทูน่าอย่างยั่งยืน

ไทย ยูเนี่ยน เป็นลูกค้าของ MSIG มาตั้งแต่ปี 1988 และเป็นผู้นำด้านผลิตอาหารทะเลระดับโลก โดยบริษัทมีเป้าหมายในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างแข็งแกร่ง และมุ่งมั่นส่งเสริมความยั่งยืนควบคู่ไปกับการสร้างนวัตกรรม สินค้าแบรนด์ต่างๆ ของบริษัทไทย ยูเนี่ยนประกอบด้วยสินค้าอาหารทะเลที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ซึ่งวางจำหน่ายอยู่ในร้านสะดวกซื้อและห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ให้กับผู้บริโภคทั่วโลกมาแล้วจากรุ่นสู่รุ่น

กลยุทธ์ส่งเสริมความยั่งยืน SeaChange®


ไทย ยูเนี่ยน
ภาพจาก seachangesustainability.org
 

ไทย ยูเนี่ยน ให้คำมั่นสัญญาในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกผ่านกลยุทธ์ส่งเสริมความยั่งยืนที่เรียกว่า SeaChange® ซึ่งออกแบบมาเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงและยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจขององค์กร กลยุทธ์แบ่งออกเป็น 4 ส่วนหลัก ได้แก่ แรงงานที่ปลอดภัยและถูกกฎหมาย การสรรหาทรัพยากรอย่างมีความรับผิดชอบ การดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบ และการใส่ใจผู้คนและชุมชน เพื่อส่งเสริมให้อุตสาหกรรมอาหารทะเลทั่วโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในวิถีทางที่สร้างคุณค่าให้กับสังคมส่วนรวม

ลงทุน 90 ล้านดอลลาร์ เพื่อส่งเสริมการจับปลาทูน่าอย่างยั่งยืน

ไทย ยูเนี่ยน
ภาพจาก seachangesustainability.org
 

ปัจจุบัน ประชากรกว่าพันล้านคนต้องพึ่งพามหาสมุทรในการเป็นแหล่งอาหารและหารายได้ ส่งผลให้ความต้องการปลาทูน่าเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในแต่ละปี ในขณะเดียวกันก็มีความกังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนของอุตสาหกรรมอาหารทะเล ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านอาหารทะเลและผู้ผลิตปลาทูน่า ไทย ยูเนี่ยน ถือว่าบริษัทมีหน้าที่ในการปกป้องปลาทูน่าในท้องทะเลให้แก่คนรุ่นต่อๆ ไปในอนาคต รวมทั้งส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกภายในอุตสาหกรรม

ไทย ยูเนี่ยน
ภาพจาก seachangesustainability.org

ไทย ยูเนี่ยน จึงได้ลงทุนด้วยเม็ดเงิน 90 ล้านดอลลาร์ในการสรรหาวัตถุดิบทั้ง 100% จากชาวประมงที่ผ่านการรับรองจาก Marine Stewardship Council (MSC) หรือเข้าร่วมในโครงการ Fishery Improvement Projects (FIPs) เพื่อส่งมอบปลาทูน่าให้กับองค์กร บริษัทไทย ยูเนี่ยน ตั้งใจว่าจะต้องทำให้ได้ตามเป้าหมายดังกล่าวอย่างน้อย 75% ภายในสิ้นปี 2020 ทั้งนี้ปลาทูน่าของไทยยูเนี่ยนนั้นนำมาจากพื้นที่หลายแห่งทั่วโลกที่ปฏิบัติตามมาตรฐานอันเข้มงวดและผ่านการรับรองจาก MSC ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในการรับรองความยั่งยืนด้านอาหารทะเลที่ดีที่สุด มาตรฐานเหล่านี้จะช่วยรับประกันว่า แนวทางการทำประมงที่นำมาใช้นั้นจะเปิดโอกาสให้สัตว์ทะเลสามารถขยายพันธุ์ต่อไปได้ ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด และปกป้องความหลากหลายในระบบนิเวศ

ลดพลาสติกในมหาสมุทร

ไทย ยูเนี่ยน
ภาพจาก seachangesustainability.org

ในฐานะองค์กรที่ใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลได้ ทั้งในรูปของกระป๋องเหล็กและกระป๋องอะลูมิเนียม รวมถึงลังกระดาษ ไทยยูเนี่ยนมองว่าบริษัทสามารถสร้างผลกระทบอันยิ่งใหญ่ผ่านการดำเนินงานเพื่อลดขยะในทะเลและอุปกรณ์ทำประมงสูญหายหรือถูกทิ้ง (เรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า 'เศษอวน')

นอกจากนี้แล้ว ไทยยูเนี่ยนยังตั้งใจว่าจะทำให้บรรจุภัณฑ์แบรนด์ของบริษัททั้ง 100% สามารถนำไปใช้ใหม่ รีไซเคิลได้ หรือกำจัดทิ้งได้ภายในปี 2025

สร้างผลกระทบในวงกว้าง

ไทย ยูเนี่ยน
ภาพจาก seachangesustainability.org

ในการต่อสู้กับปัญหาเกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพนั้น ไทยยูเนี่ยนตั้งใจว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ลง 30% ในโรงงาน และลดการใช้น้ำภายในโรงงานทั่วโลกลง 20% เทียบกับฐานตัวเลขในปี 2016

การดำเนินงานดังกล่าวทำให้ไทยยูเนี่ยนรั้งอันดับหนึ่ง 1 ในดัชนี Seafood Stewardship Index (SSI) ที่จัดทำขึ้นมาเป็นครั้งแรก จากการช่วยส่งเสริมเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN Sustainable Development Goals: SDG) นอกจากนี้แล้ว บริษัทยังเป็นองค์กรอันดับหนึ่ง 1 ในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารจากการจัดอันดับของดัชนีความยั่งยืนดาวน์โจนส์ (Dow Jones Sustainability Index: DJSI) ปี 2018 และ 2019 อีกทั้งยังได้รับรางวัล Sustainability Disclosure Award 2020 จากสถาบันไทยพัฒน์และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์อีกด้วย

เนื้อหาภายในบทความนี้ได้รับการสนับสนุนโดย บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)