"รถยนต์คัน A ตัดสินใจเบรคกระทันหันทันที เมื่อเห็นต้นไม้หักโค่นกลางทาง ทำให้รถยนต์คัน B ขับตามหลังมากระชั้นชิดชนเข้ากับรถยนต์คัน A และรถยนต์คัน C ขับตามหลังมากระชั้นชิดชนเข้ากับรถยนต์คัน B ตามด้วยรถยนต์คัน D ชนเข้ากับรถยนต์คัน C"

ในกรณีนี้รถคัน B, คัน C และ คัน D ทั้งหมดไม่สามารถรักษาระยะเบรคที่ปลอดภัย และหยุดรถทันเวลาได้ รถทั้ง 3 คันนี้ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายต่อรถยนต์ที่พวกเขาชนท้าย ยกเว้นรถยนต์คัน A ที่ไม่ต้องรับผิดในสถานการณ์นี้

"รถยนต์คัน A ตัดสินใจเบรคกระทันหันทันที เมื่อเห็นต้นไม้หักโค่นกลางทาง รถยนต์คัน B ที่ขับตามหลังรถยนต์คัน A มา เบรครถได้ทันเวลา รถยนต์คัน C เองที่ขับตามรถยนต์คัน B ก็สามารถเบรครถได้ทัน แต่รถยนต์คัน D ขับตามหลังมารถยนต์คัน C มากระชั้นชิดเบรคไม่ทันจึงชนเข้ากับรถยนต์คัน C ผลที่ตามมาคือเกิดรถชนกันต่อเนื่องซึ่งเป็นผลมาจากรถยนต์คัน D"

ในกรณีนี้รถยนต์คัน D จะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายทั้งหมดที่เกิดจากการชนกันเป็นลูกโซ่ เนื่องจากคัน D นั้นประมาทไม่รักษาระยะเบรคที่ปลอดภัย

"เนื่องจากช่องทางเดินรถด้านขวาเคลื่อนตัวช้า รถยนต์คัน A ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนเลนเข้าช่องทางเดินรถช่องกลางทันที เมื่อรถยนต์คัน A เบียดเข้ามาในช่องกลางและอยู่หน้ารถยนต์คัน B ได้แล้ว แต่แล้วรถยนต์คัน A เบรครถกระทันหัน รถยนต์คัน B ขับตามหลังมากระชั้นชิดเบรคไม่ทันชนเข้ากับรถยนต์คัน A และรถยนต์คัน C ขับตามหลังรถยนต์คัน B มากระชั้นชิดเบรคไม่ทันชนเข้ากับรถยนต์คัน B ตามด้วยรถยนต์คัน D ที่ขับตามหลังรถยนต์คัน C มาก็ชนเข้ากับรถยนต์คัน C เช่นกัน"

สถานการณ์สมมุติ C เหตุการณ์จะคล้ายคลึงกับสถานการณ์ A แต่มีความซับซ้อนกว่า ซึ่งเหตุการณ์ส่วนใหญ่จะเกิดจากการชนท้ายจากการไม่รักษาระยะห่างอย่างเหมาะสม หากไม่มีหลักฐานจากกล้องติดรถที่ทำให้เห็นถึงพฤติกรรมการขับรถประมาทของคนขับรถ A อาจจะทำให้คนขับรถ A สามารถหลีกเลี่ยงการรับผิดจากความประมาทได้ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นฝ่ายผิดก็ตาม และนี่คือเหตุผลที่เราควรติดกล้องไว้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง แต่ถ้าหากไม่มีหลักฐานจริงๆ ผู้ขับขี่ B , C และ D ต้องว่าจ้างทนายความ และ / หรือ หาพยานในสถานที่เกิดเหตุจะดีที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นฝ่ายผิดในเหตุการณ์ครั้งนี้

เมื่อพูดถึงปัญหารถชนกันหลายคัน อาจเป็นการยากที่จะระบุว่าใครเป็นคนผิด ในขณะที่ตำรวจสอบสวนพยายามทำหน้าที่ที่ดีที่สุดในการพิจารณาความรับผิดอย่างเป็นธรรม ซึ่งอาจไม่ตรงใจของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากรถคุณไม่มีกล้องติดตั้งอยู่และไม่มีหลักฐานพยานแวดล้อม นี่ทำให้เรารู้ว่าประกันรถยนต์ที่ทำมามีประโยชน์อย่างไร กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ที่มีความคุ้มครองครอบคลุมจะช่วยลดความรับผิดของคุณ และคุ้มครองความเสียหายที่เกิดกับยานพาหนะคันอื่นๆ ประกันรถยนต์จะมีประโยชน์จากเหตุการณ์สมมุติ B ซึ่งผู้ขับขี่ชนรถแบบเรียงซ้อนกัน และยิ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในเหตุการณ์สมมุติ C ซึ่งผู้ขับขี่เป็นฝ่ายผิดในสถานการณ์ที่กฎหมายยังไม่ชัดเจนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ภายใต้เงื่อนไขกรมธรรม์บางกรมธรรม์ คุณอาจยังคงต้องจ่ายเงินค่าเสียหายส่วนแรกก่อนที่ บริษัทประกันจะจ่ายค่าสินไหนทดแทนทั้งหมดให้แก่คุณ

---

อุบัติเหตุรถอาจจะเกิดขึ้นได้หลากหลายเหตุการณ์ แม้ว่าจะเกี่ยวข้องกับยานพาหนะ 2 คันก็ตาม หากคุณต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมคลิก ประกันภัยรถยนต์ หรือ ติดต่อเรา