

08-2020
ประกันอัคคีภัย คุ้มครองอะไรบ้าง เป็นคำถามที่คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน คนส่วนใหญ่จะมีพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์หรือประกันสุขภาพดีกว่า เมื่อเทียบกับประกันอัคคีภัย เพราะประกันอัคคีภัย คือ ประกันภัยที่คนทั่วไปจะไม่ค่อยรู้และขาดความเข้าใจในเงื่อนไขความคุ้มครอง มาให้เราช่วยไขข้อข้องใจและทำให้คุณเข้าใจประกันอัคคีภัย มากขึ้นกันเถอะ
ประกันอัคคีภัย คืออะไร? และคุ้มครองอะไรบ้าง?
ประกันอัคคีภัย คือ การประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองทรัพย์สินจากความเสียหายที่เกิดจากหลายสาเหตุ ไม่ใช่เฉพาะไฟไหม้เท่านั้น ประกันอัคคีภัย คุ้มครองอะไรบ้าง ตอบได้ว่าครอบคลุมตั้งแต่การระเบิด น้ำท่วม ฟ้าผ่า ลูกเห็บ ลมพายุ และแม้กระทั่งผลกระทบจากเครื่องบิน
แล้วประกันอัคคีภัยคุ้มครองอะไรบ้าง? ประกันอัคคีภัยคุ้มครองครอบคลุมตั้งแต่
ไฟไหม้ - ความคุ้มครองหลักที่ทุกคนรู้จัก
การระเบิด - จากแก๊ส หรือสารเคมี
น้ำท่วม - จากฝนตก หรือน้ำล้นตลิ่ง
ฟ้าผ่า - ความเสียหายจากฟ้าผ่า
ลูกเห็บ - ความเสียหายจากลูกเห็บตกใส่หลังคา
ลมพายุ - ลมแรงที่ทำลายโครงสร้างอาคาร
ผลกระทบจากเครื่องบิน - อุบัติเหตุที่หายาก แต่มีความคุ้มครอง
การจลาจล - ความเสียหายจากความไม่สงบ
4 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประกันอัคคีภัยที่คนทั่วไปไม่เคยรู้
1. ประกันอัคคีภัย คุ้มครองอะไรบ้าง นอกจากไฟไหม้
คนส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าประกันอัคคีภัยให้ความคุ้มครองเฉพาะการเกิดเพลิงไหม้เท่านั้น แต่จริงๆแล้วในทางตรงกันข้าม แผนประกันอัคคีภัย คือการประกันภัยที่ให้ครอบคลุมถึงเหตุการณ์หลายอย่าง ตั้งแต่การระเบิดไปจนถึงน้ำท่วม หรือแม้กระทั่งผลกระทบจากเครื่องบิน
ซึ่งแผนประกันอัคคีภัยนั้นมีแผนความคุ้มครองที่หลากหลาย ดังนั้นโปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณซื้อแผนประกันที่คุณเลือกซื้อนั้นตรงตามความต้องการของคุณจริงๆ เช่นถ้าพื้นที่ที่คุณอยู่อาศัยมีแนวโน้มที่จะเกิดน้ำท่วมให้ตรวจสอบให้ดีว่าแผนประกันที่เลือกซื้อครอบคลุมภัยน้ำท่วมหรือไม่
2. ความแตกต่างระหว่างประกันอัคคีภัยกับประกันบ้าน
ความแตกต่างระหว่างประกันอัคคีภัยกับประกันบ้าน แต่จริงๆแล้วมันก็ไม่เชิงว่าประกันอัคคีภัยคือประกันภัยบ้าน แต่บางบริษัทประกันภัยจะมีความคุ้มครองที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน เช่น ประกันอัคคีภัยให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นจากโครงสร้างอาคาร ในขณะที่ประกันบ้านมีการจ่ายเงินค่าเสียหายให้กับทรัพย์สินภายในบ้าน
อย่างไรก็ตาม บางบริษัทประกันภัยมักจะรวมสองผลิตภัณฑ์นี้โดยการผสมผสานความคุ้มครองเข้าด้วยกัน ด้วยความคลุมเครือของความคุ้มครอง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องอธิบายความคุ้มครองอย่างชัดเจนเกี่ยวกับเงื่อนไขของแผนประกันภัย หรือสอบถามจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำความเข้าใจว่าคุณควรจะทำประกันภัยประเภทใดให้เหมาะกับความต้องการของคุณ
3. ประกันอัคคีภัย คุ้มครองไฟไหม้จากเพื่อนบ้านด้วยหรือไม่
ส่วนใหญ่ประกันอัคคีภัยให้ความคุ้มครอง ถึงแม้ว่าเหตุไฟไหม้ไม่ได้เริ่มต้นที่บ้านของคุณด้วยซ้ำ ตัวอย่างเช่น ถ้าเกิดเพลิงไหม้บ้านของเพื่อนบ้านคุณ แน่นอนว่ามีโอกาสที่จะเกิดคราบเขม่าหรือรอยไหม้ที่กำแพงบ้าน และเฟอร์นิเจอร์บางอย่างที่อยู่ใกล้ต้นเพลิง นอกจากนี้ยังมีกลิ่นควันติดผ้าม่านของคุณ
ในกรณีนี้ หากคุณทำประกันอัคคีภัยกับบริษัทประกันภัยเอาไว้ บริษัทประกันภัยของคุณจะให้ค่าชดเชยสำหรับการทำความสะอาดและระงับกลิ่นที่เกิดจากเหตุเพลิงไหม้จากสถานการณ์แบบนี้ด้วย
4. ไม่จำเป็นต้องทำประกันอัคคีภัย จริงเหรอ
หลายคนคิดว่าไม่จำเป็นต้องทำประกันอัคคีภัย จริงๆแล้วไม่ถูกต้องนัก เพราะหลายๆครอบครัว เงินสำรองฉุกเฉินอาจจะไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายทั้งหมดหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น รวมถึงค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดกับโครงสร้างภายในอาคารที่พัก และค่าใช้จ่ายในการซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ รวมถึงค่าใช้จ่ายที่ใช้เป็นที่พักชั่วคราวระหว่างการซ่อมแซม
ดังนั้น การทำประกันอัคคีภัยเป็นตัวเลือกที่ดีในการป้องกันเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับบ้านและทรัพย์ที่คุณรักไม่ให้กลายเป็นภาระทางการเงินขนาดใหญ่ในอนาคตได้
5 ขั้นตอนง่ายๆ เลือกประกันอัคคีภัยให้เหมาะกับคุณ
1. เลือกความคุ้มครองที่ต้องการ
ประกันอัคคีภัยมีความคุ้มครองภัยหลัก 6 ประเภท คือ ไฟไหม้ ฟ้าผ่า การระเบิด ภัยจากยานพาหนะและสัตว์พาหนะ ภัยจากอากาศยาน และภัยอันเนื่องจากน้ำ นอกจากนี้ยังมีภัยเพิ่มเติมที่ควรพิจารณาตามพื้นที่ เช่น น้ำท่วม ลมพายุ แผ่นดินไหว และโจรกรรม ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของย่านที่อาศัยอยู่
2. ทรัพย์สินที่ทำประกันได้
ทรัพย์สินที่สามารถทำประกันได้ ได้แก่ บ้าน ทาวน์เฮาส์ ตึกแถว โรงรถ กำแพง รั้ว เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องตกแต่ง ส่วนทรัพย์สินที่ไม่สามารถทำประกันภัยได้ ได้แก่ ทองคำ อัญมณี เอกสารสำคัญ เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานพาหนะ และต้นไม้
3. คำนวณทุนประกันภัย
การคำนวณทุนประกันภัยใช้สูตร ราคาสิ่งปลูกสร้าง บวก ทรัพย์สินภายใน เท่ากับ ทุนประกัน ตัวอย่างเช่น ถ้าตัวอาคารมีมูลค่า 1.5 ล้านบาท บวกกับทรัพย์สินภายในบ้าน 1.5 ล้านบาท จะได้ทุนประกันภัยที่เหมาะสม 3 ล้านบาท
4. กฎ 70% สำคัญมาก!
หากทำทุนประกันภัยมากกว่าหรือเท่ากับ 70% ของมูลค่าทรัพย์สิน จะสามารถเคลมประกันภัยอัคคีภัยได้เต็ม 100% แต่หากทำทุนประกันภัยน้อยกว่า 70% ของมูลค่าทรัพย์สิน จะเคลมไม่เต็มจำนวน และต้องแบกค่าเสียหายส่วนแรกเอง นี่คือกฎที่สำคัญมากที่เจ้าของบ้านต้องรู้
5. พิจารณาค่าเบี้ยประกันภัยอัคคีภัยควบคู่ไปกับความคุ้มครอง
การชำระเบี้ยประกันจะมีหลายแบบทั้งแบบ ปีต่อปี หรือ แบบหลายปี ขอแนะนำให้เลือกพิจารณาความคุ้มครองประกันอัคคีภัยแบบหลายปีจะประหยัดกว่าชำระรายปี ยกตัวอย่าง หากเลิอกความคุ้มครองเพียง 1 ปี จะต้องชำระในราคา 1,000 บาท เปรียบเทียบกับเลือกความคุ้มครองแบบ 2 ปี การชำระจะอยู่ที่ 1,750 บาท ทำให้ประหยัด 250 บาท และการชำระ 3 ปีจะอยู่ที่ 2,500 บาท ทำให้ประหยัด 500 บาท เมื่อเทียบกับการชำระรายปีเป็นต้น
ทำไมต้องซื้อประกันอัคคีภัยกับ MSIG
เมื่อรู้แล้วว่าประกันอัคคีภัย คุ้มครองอะไรบ้าง คำถามต่อมาคือควรเลือกซื้อกับบริษัทไหนดี MSIG เป็นตัวเลือกยอดนิยม เพราะเป็นหนึ่งในสมาขิกของ MS&AD Insurance Group จากประเทศญี่ปุ่น มีเครดิตเรตติ้งอันดับ A ระดับโลก และเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจประกันภัยมากกว่า 100 ปี ทำให้มั่นใจได้ในเรื่องความมั่นคงของสถานะทางการเงิน หากมีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้น ซึ่งแผนประกันอัคคีภัยของ MSIG คุ้มครองอะไรบ้างนั้น อยากที่ทราบกันดีว่าแผนประกันภัยอัคคีภัยมีให้แผนให้เลือกหลากหลายครอบคลุมครบครันตั้งแต่ไฟไหม้ ระเบิด ฟ้าผ่า น้ำท่วม ลมพายุ รวมถึงทรัพย์สินภายในบ้านและค่าที่พักชั่วคราวระหว่างซ่อมแซม อีกทั้งกระบวนเรียกร้องค่าสินไหมหรือการเคลมยังสะดวกด้วยระบบแจ้งเคลมออนไลน์ หรือ Claim Tracking 24 ชั่วโมง และพร้อมจ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนภายใน 15 วันทำการเมื่อฝ่ายพิจารณาสินไหมทดแทนได้รับเอกสารครบถ้วน
---
หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างประกันภัยบ้านและประกันอัคคีภัย สอบถามเพิ่มเติมได้ ที่นี่ หรือ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่
📞 ติดต่อ MSIG วันนี้ เพื่อรับคำปรึกษาฟรีเกี่ยวกับแผนประกันอัคคีภัยบ้านที่เหมาะสมกับคุณ หรือเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันอัคคีภัย คุ้มครองอะไรบ้าง ในแผนต่างๆ ของ MSIG