A : ผู้เอาประกันภัยสามารถแจ้งบริษัทเพื่อขอยกเลิกกรมธรรม์พร้อมทั้งขอคืนค่าเบี้ยประกันได้เต็มจำนวน (แนวปฏิบัติชั่วคราวในเรื่องอากรนี้ มีผลตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 เมษายน 2563)
A : ผู้เอาประกันภัยสามารถแจ้งบริษัทเพื่อขอยกเลิกกรมธรรม์พร้อมทั้งขอคืนค่าเบี้ยประกันได้ กรณีไม่ยกเลิกกรมธรรม์ แต่จะขอเคลมค่าตั๋วเครื่องบินในหใวดการยกเลิกหรือเลื่อนการเดินทาง จะไม่ได้รับความคุ้มครองภายใต้เงื่อนไขกรมธรรม์
A : คุ้มครอง
A : หากผู้เอาประกันภัยพบว่าตนเองได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์แล้วว่าเป็น COVID-19 จริงก่อนวันเดินทาง กรมธรรม์จะชดใช้การสูญเสียหรือเสียหายซึ่งเกิดขึ้นจากการยกเลิกหรือเลื่อนการเดินทางที่เกิดขึ้นภายใน 60 วันก่อนเริ่มต้นการเดินทาง เช่น เงินมัดจำค่าเดินทาง ค่าซื้อตั๋วล่วงหน้า ค่าที่พัก ค่าอาหารที่ผู้เอาประกันภัยได้จ่ายไว้ล่วงหน้า เป็นต้น
A : ภายใต้หมวดยกเลิกหรือเลื่อนการเดินทางนั้น จะคุ้มครองหากการเดินทางของผู้เอาประกันภัยถูกยกเลิกหรือถูกเลื่อน อันมีสาเหตุมาจากการเสียชีวิต หรือการบาดเจ็บสาหัส หรือการเจ็บป่วยรุนแรงของผู้เอาประกันภัย ดังนั้น หากแพทย์ยังไม่ได้วินิจฉัยว่าเป็นการเจ็บป่วยร้ายแรง เช่น COVID-19 เป็นเพียงอยู่ในกลุ่มเฝ้าระวังเท่านั้น แนะนำเพียงว่าควรหลีกเลี่ยงการเดินทาง กรมธรรม์ภายใต้หมวดนี้จะยังไม่คุ้มครอง
A : หมวดยกเลิกหรือเลื่อนวันเดินทาง ผู้เอาประกันภัยสามารถยกเลิกหรือเลื่อนวันเดินทางได้ และจะได้รับการชดเชยภายใต้หมวดนี้ หากผู้เอาประกันภัยหรือสมาชิกในครอบครัวได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นการเจ็บป่วยรุนแรง เช่น covid-19 บริษัทจะชดใช้ความสูญเสียหรือเสียหายซึ่งเกิดขึ้นจากการยกเลิกหรือเลื่อนวันเดินทาง เช่น เงินมัดจำค่าเดินทาง ค่าซื้อตั๋วล่วงหน้า ค่าที่พัก ค่าอาหารที่ผู้เอาประกันภัยได้จ่ายไปล่วงหน้า ซึ่งไม่ได้รับการชดใช้จากแหล่งอื่น และเป็นผลต่อเนื่องจากการยกเลิกหรือเลื่อนการเดินทาง
A : ผู้เอาประกันภัยยังได้รับความคุ้มครองตามปกติ
กรมธรรม์ประกันภัยเดินทางของ MSIG Travel Easy ให้ความคุ้มครอง ค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นระหว่างเดินทางในต่างประเทศ ทั้งจากไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) H5N1, H1N1 รวมถึง SARS
หากพบว่าผู้เอาประกันภัยเจ็บป่วยจากโรคระบาดดังกล่าว กรมธรรม์ย่อมให้ความคุ้มครองในทุกประเทศที่ท่านได้ซื้อประกันไว้ ไม่มีข้อยกเว้นใดๆ แม้จะเดินทางไปในประเทศกลุ่มเสี่ยง
A : ในระหว่างการถูกกักตัวนั้น กรมธรรม์ยังมีผลบังคับอยู่ หากผู้เอาประกันภัยได้รับบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยจะได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ เพียงแต่ไม่มีการชดเชยหรือความคุ้มครองพิเศษชดเชยระหว่างถูกกักตัว
A : กรณีถูกกักตัวไม่ให้เข้าประเทศปลายทาง หากแพทย์วินิจฉัยว่า อาการเจ็บป่วยเกิดก่อนที่จะเดินทางไปต่างประเทศ กรมธรรม์ก็จะไม่คุ้มครอง เพราะถือเป็นสภาพที่เป็นมาก่อนการเอาประกันภัย
A : แบ่งเป็น 3 หมวดดังนี้
1. หมวดค่ารักษาพยาบาล กรณีผู้เอาประกันภัยมีอาการป่วย มีไข้ และอยู่ในระยะเฝ้าระวัง ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลในต่างประเทศ บริษัทจะพิจารณาค่ารักษาพยาบาลตามความจำเป็นทางการแพทย์ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินผลประโยชน์ที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ภายใต้หมวดค่ารักษาพยาบาล
2. หมวดการเคลื่อนย้ายเพื่อการรักษาพยาบาลฉุกเฉินหรือการเคลื่อนย้ายกลับสู่ประเทศไทย บริษัทจะพิจารณาถึงความจำเป็นเพื่อการรักษาพยาบาลฉุกเฉินเท่านั้น
3. หมวดการยกเลิกหรือเลื่อนการเดินทาง ผู้เอาประกันภัยสามารถยกเลิกหรือเลื่อนวันเดินทางได้ และจะได้รับการชดเชยภายใต้หมวดนี้ หากผู้เอาประกันภัยหรือสมาชิกในครอบครัวได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นการเจ็บป่วยรุนแรง เช่น COVID-19 บริษัทจะชดใช้ความสูญเสียหรือเสียหายซึ่งเกิดขึ้นจากการยกเลิกหรือเลื่อนการเดินทาง เช่น เงินมัดจำค่าเดินทาง ค่าซื้อตั๋วล่วงหน้า ค่าที่พัก ค่าอาหารที่ผู้เอาประกันภัยจ่ายไปล่วงหน้า ซึ่งไม่ได้รับการชดใช้จากแหล่งอื่น และเป็นผลต่อเนื่องจากการยกเลิกหรือเลื่อนการเดินทาง แต่หากผลการตรวจวินิจฉัยของผู้เอาประกันภัยเป็นเพียงไข้หวัดทั่วไป ผู้เอาประกันภัยจะไม่สามารถได้รับการชดเชยในหมวดนี้
A : ผู้เดินทางที่มีความประสงค์เดินทางไปท่องเที่ยว ติดต่อธุรกิจ ประชุม สัมมนา หรือเรียนต่อต่างประเทศ
ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือคนต่างชาติที่มีถิ่นฐานอยู่ในประเทศไทย
A : แผนความคุ้มครองประกันภัยแบบรายเที่ยว จะคุ้มครองการเดินทางได้สูงสุด 180 วันต่อครั้ง
และแผนรายปีคุ้มครองสูงสุดไม่เกิน 120 วันต่อการเดินทางแต่ละครั้ง ซึ่งสามารถเดินทางกี่ครั้งก็ได้ภายใน 1 ปี
A : ตั้งแต่ 1 - 80 ปีบริบูรณ์ ตามเงื่อนไขที่กำหนด
A : ความคุ้มครองของผู้เอาประกันภัย อายุ 1-14 ปี จะต่างจากผู้เอาประกันภัยอายุ 15-75 ปีบริบูรณ์ กรณีการเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ สายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง คุ้มครอง 1,500,000 บาท ทุกแผนประกันภัย และค่ารักษาพยาบาลระหว่างการเดินทางไปต่างประเทศคุ้มครอง 2,000,000 บาท ทุกแผนประกันภัย ส่วนความคุ้มครองอื่น ๆ ได้เท่ากันกับผู้เอาประกันภัยอายุ 15-75 ปี
A : ความคุ้มครองของผู้เอาประกันภัย อายุ 76 -80 ปี จะต่างจากผู้เอาประกันภัยอายุ 15-75 ปีบริบูรณ์ กรณีการเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ สายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง คุ้มครอง 1,000,000 บาท (Easy1, Easy2 และ Easy3) , คุ้มครอง 750,000 (Easy visa plus, Easy visa) และค่ารักษาพยาบาลระหว่างการเดินทางไปต่างประเทศคุ้มครอง 1,500,000 บาท ทุกแผนประกันภัย ส่วนความคุ้มครองอื่น ๆ ได้เท่ากันกับผู้เอาประกันภัยอายุ 15-75 ปี
A : ทุกแผนสามารถใช้ยื่นขอวีซ่าได้
A : ลูกค้าจะต้องเลือกประเทศปลายทางที่ไกลที่สุด
A :
อัฟกานิสถาน, อาเซอร์ไบจาน, คิวบา, อิหร่าน, อิรัก, อิสราเอล, คีร์กีซสถาน, เลบานอน, ลิเบีย,นิการากัว, เกาหลีเหนือ, ปากีสถาน, ปาเลสไตน์, ซีเรีย, ทาจิกิสถาน, เติร์กเมนิสถาน, อุซเบกิสถาน , เนปาล (ยกเว้นเฉพาะการไต่หน้าผาและปีนเขา)
A : เริ่มต้นก่อนเดินทางออกจากประเทศไทย 2 ชั่วโมงและต่อเนื่องจนเดินทางกลับประเทศไทยภายใน 2 ชั่วโมง นับแต่กลับถึงประเทศไทย หรือวันสิ้นสุดระยะเวลาประกันภัย แล้วแต่เหตุการณ์ใดจะเกิดขึ้นก่อน
A : เลื่อนวันเดินทางได้ และต้องแจ้งให้บริษัททราบล่วงหน้าก่อนวันเริ่มคุ้มครองที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
A : สามารถซื้อเพิ่มเติมได้ แต่เมื่อรวมแล้วต้องไม่เกิน 180 วัน โดยต้องติดต่อบริษัทก่อนที่กรมธรรม์จะสิ้นสุดความคุ้มครอง
A : ไม่ได้รับความคุ้มครอง เพราะกรมธรรม์จะคุ้มครองตามวันที่ระบุไว้ในหน้ากรมธรรม์
A : ไม่ต้อง
A : ได้ แต่จะไม่คุ้มครองโรคประจำตัวหรือโรคที่เป็นมาก่อนการเดินทาง เพราะอยู่ในข้อยกเว้นของกรมธรรม์
A : ซื้อได้ แต่จะไม่คุ้มครองกรณีแท้งบุตร ทำแท้ง การคลอดบุตร โรคแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์
A : การขอยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยการเดินทาง
รายเที่ยว สามารถยกเลิกและได้รับเงินคืนได้ในกรณีที่วีซ่าไม่ผ่านเพียงกรณีเดียวเท่านั้น
โดยมีหลักฐานยืนยันจากสถานทูต และผู้เอาประกันภัยจะต้องแจ้งให้บริษัททราบก่อนวันเริ่มคุ้มครอง กรณีอื่นๆจะไม่สามารถคืนเงินได้
รายปี ผู้เอาประกันภัยจะยกเลิกกรมธรรม์ได้ จะต้องแจ้งให้บริษัททราบล่วงหน้าเป็นหนังสือ โดยการยกเลิกจะมีผลบังคับในวันที่บริษัทได้รับการแจ้งหรือวันที่ระบุในใบแจ้ง (แล้วแต่วันใดจะเป็นวันหลังสุด) และบริษัทจะคืนเบี้ยประกันภัยหลังจากหักเบี้ยประกันภัยสำหรับระยะเวลาที่กรมธรรม์ประกันภัยได้ใช้บังคับมาแล้ว ออกตามอัตราเบี้ยประกันภัยระยะสั้นที่บริษัทกำหนด
A : คุ้มครอง หากสมาชิกในครอบครัวเสียชีวิต บาดเจ็บสาหัสหรือเจ็บป่วยรุนแรง (สมาชิกในครอบครัว หมายถึง คู่สมรส , บิดา มารดาของผู้เอาประกันภัย , บิดา มารดาของคู่สมรส, บุตร พี่น้องของผู้เอาประกันภัย)
A : ไม่คุ้มครอง เพราะระบุไว้ในข้อยกเว้นของกรมธรรม์
A : คุ้มครอง
A : ไม่คุ้มครอง เนื่องจากกรมธรรม์จะคุ้มครองผู้เอาประกันภัยที่เดินทางด้วยเครื่องบินที่เป็นสายการบินพาณิชย์เท่านั้น
A : ไม่คุ้มครอง เพราะอยู่ในข้อยกเว้นของกรมธรรม์
A : ไม่คุ้มครองในกรณีเข้าร่วมเล่นหรือฝึกซ้อมหรือแข่งขันกีฬาอาชีพ หรือประเภทกีฬาที่ระบุไว้ในข้อยกเว้นในกรมธรรม์
คุ้มครองในกรณีเป็นการเล่นกีฬาเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจหรือเพื่อการสันทนาการ
A : ไม่คุ้มครอง เพราะอยู่ในข้อยกเว้นของกรมธรรม์
A : คุ้มครอง หากได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าเป็นโรคที่เกิดระหว่างการเดินทาง และไม่ใช่โรคประจำตัว
A : ไม่คุ้มครอง เพราะอยู่ในข้อยกเว้นของกรมธรรม์
A : คุ้มครองทั้งกรณีเป็นผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก แต่ไม่คุ้มครองโรคที่เป็นมาก่อนการเดินทาง
A : กรณีเป็นผู้ป่วยนอก ต้องสำรองจ่ายทุกกรณี ส่วนกรณีเป็นผู้ป่วยใน หากเป็นเหตุสุดวิสัยที่ไม่สามารถจ่ายได้ ให้ผู้เอาประกันภัยติดต่อขอรับคำปรึกษากับศูนย์ให้ความช่วยเหลือ MSIG Assist ที่หมายเลข +66 (0) 2039 5704
A : ไม่คุ้มครอง นอกจากจะได้รับการตรวจรักษา และมีใบสั่งยาและใบรับรองการรักษาจากแพทย์เท่านั้น
A : ได้ กรมธรรม์ให้ความคุ้มครองค่าเดินทาง 1,000 บาทต่อเที่ยวการเดินทาง และคุ้มครองเฉพาะค่าเดินทางไปพบแพทย์ในต่างประเทศเท่านั้น
A : ไม่มี ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการรักษาจากการวินิจฉัยของแพทย์
A : ไม่คุ้มครอง จะต้องเป็นการรักษาพยาบาลโดยแพทย์แผนปัจจุบันเท่านั้น
A : ได้ หากการรักษาพยาบาลเป็นผลสืบเนื่องจากความบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นใน ต่างประเทศ แต่จะต้องทำการรักษาภายใน 7 วันหลังจากเดินทางกลับประเทศไทย วงเงินคุ้มครองไม่เกินร้อยละ 5% ของจำนวนเงินเอาประกันภัยของค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศ และรักษาต่อเนื่องกันไม่เกิน 21 วัน
A : ได้ หากการรักษาพยาบาลเป็นผลสืบเนื่องจากความบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นใน ต่างประเทศ แต่จะต้องทำการรักษาภายใน 7 วันหลังจากเดินทางกลับประเทศไทย วงเงินคุ้มครองไม่เกินร้อยละ 5% ของจำนวนเงินเอาประกันภัยของค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศ และรักษาต่อเนื่องกันไม่เกิน 21 วัน
A : คุ้มครอง แต่ต้องเดินทางไปพบแพทย์ภายใน 7 วันนับจากวันที่เดินทางถึงประเทศไทย
A : MSIG Assist ที่หมายเลข +66 (0)2 039 5704 ตลอด 24 ชั่วโมง
A : ไม่ได้ เนื่องจากเป็นเอกสารสำคัญที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
A : ได้ แต่ใบรับรองแพทย์ / ใบเสร็จรับเงิน จะต้องเป็นฉบับจริงเท่านั้น
A : ค่าชดเชยการสูญเสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุ ค่ารักษาพยาบาล ค่าเคลื่อนย้ายเพื่อรักษาพยาบาลฉุกเฉิน และค่าเคลื่อนย้ายศพกลับประเทศไทย
A : ค่ารักษาพยาบาล ค่าเคลื่อนย้ายเพื่อรักษาพยาบาลฉุกเฉิน และค่าเคลื่อนย้ายศพกลับประเทศไทย
A : ไม่คุ้มครอง เนื่องจากอยู่ในข้อยกเว้นของกรมธรรม์เรื่องสภาพที่เป็นมาก่อนการเอาประกันภัย
(Pre-existing Conditions)
A : ให้ญาติ , บุคคลในครอบครัว , เพื่อนผู้ร่วมเดินทาง ติดต่อ MSIG Assist โดยเร็วที่สุดเพื่อขอรับคำปรึกษาเรื่องการบริการความช่วยเหลือฉุกเฉินในการส่งศพหรืออัฐิกลับประเทศไทย
A : กระเป๋าเดินทางที่ใส่สัมภาระการเดินทาง ทั้งแบบมีล้อลากหรือแบบหิ้ว รวมทั้งกระเป๋าเป้ทั้งใบเล็กและใบใหญ่
A : คุ้มครอง หากความล่าช้านั้นเกิดจากความผิดพลาดของบริษัทขนส่ง ทำให้ผู้เดินทางได้รับกระเป๋าเดินทางล่าช้า เป็นระยะเวลาเกินกว่า 6 ชั่วโมงขึ้นไป
A : ไม่คุ้มครอง เพราะการที่ผู้เอาประกันภัยลืมทรัพย์สินในยานพาหนะใดๆ หรือสถานที่สาธารณะ หรือความสูญเสียที่เป็นผลมาจากการละเลยของผู้เอาประกันภัยในการดูแลรักษา และป้องกันไว้ก่อนตามสมควรเพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สินนั้นอยู่ในข้อยกเว้นของกรมธรรม์
A : คุ้มครอง จะชดเชยไม่เกินชิ้นละหรือคู่ละ 5,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแผนประกันภัยที่เลือกซื้อ
ซึ่งจะมีค่าความเสียหายส่วนแรก 1,000 บาทต่อเหตุการณ์
A : ไม่คุ้มครอง
A : คุ้มครอง ยกเว้นกระเป๋าเงินและกระเป๋าที่ไม่ใช่กระเป๋าเดินทางตามคำนิยาม สัตว์ ยานพาหนะที่เดินด้วย
เครื่องจักรกล (รวมถึงอุปกรณ์ส่วนควบคุมยานพาหนะนั้น) ยานพาหนะอื่นใด สกีหิมะ ของใช้ในบ้าน
โบราณวัตถุ โทรทัศน์ เครื่องเล่นซีดี คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค เพชร ทอง เงิน รวมถึงเครื่องทอง เครื่องประดับ
นาฬิกาและสายรัดข้อมือทุกรูปแบบ คอนแทคเลนส์ เก้าอี้มีล้อสำหรับคนพิการ ฟันปลอม ขาแขนเทียม
ใบหุ้น เอกสาร ตั๋วเงิน เหรียญกษาปณ์ หรือของที่ระลึก
A : กรมธรรม์จะคุ้มครองก็ต่อเมื่อมีการทุบกระจกรถยนต์เพื่อขโมยกระเป๋าเดินทาง และ/หรือทรัพย์สินส่วนตัว และ/หรืออุปกรณ์กอล์ฟเท่านั้น
A : การล่าช้าของเที่ยวบินหากเกินกว่า 6 ชั่วโมง และมีสาเหตุมาจาก 3 กรณีดังนี้
1. สภาพอากาศไม่อำนวย
2. การทำงานผิดพลาดของอุปกรณ์การบินของเครื่องบิน
3. การนัดหยุดงาน หรือการประท้วงโดยลูกจ้างของสายการบินพาณิชย์ หรือท่าอากาศยานที่ทำให้ ไม่สามารถเดินทางได้
A : การล่าช้าของเที่ยวบินหากเกินกว่า 6 ชั่วโมง บริษัทจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนกรณีใดกรณีหนึ่งดังนี้
- กรณีที่สายการบินไม่ประกาศยกเลิกเที่ยวบิน หรือสายการบินนั้นได้มีการจัดหาเที่ยวบินมาทดแทน จะจ่าย
ค่าชดเชย 20% ของทุนประกันภัย ต่อการล่าช้าทุกๆ 6 ชั่วโมง
- กรณีที่สายการบินมีประกาศการยกเลิกเที่ยวบินและไม่มีการจัดหาเที่ยวบินมาทดแทน หลังจากเครื่องบินล่าช้าเกินกว่า 6 ชั่วโมง จะค่าชดเชย 20% ของทุนประกันภัยต่อเหตุการณ์เท่านั้น
A : ไม่ได้ เพราะสาเหตุของการล่าช้าต้องเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
A : ไม่คุ้มครอง เพราะไม่ได้ระบุไว้ในกรมธรรม์
1. แบบฟอร์มการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนที่กำหนดโดยบริษัท
2. ใบรายงานแพทย์ที่ระบุอาการสำคัญ ผลการวินิจฉัย และการรักษา (ฉบับจริง)
3. ใบเสร็จรับเงินต้นฉบับที่แสดงรายการค่าใช้จ่าย
4. สำเนาหนังสือเดินทางของผู้เอาประกันภัย
5. เอกสารอื่นๆที่บริษัทร้องขอตามความจำเป็น
1. แบบฟอร์มการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนที่กำหนดโดยบริษัท
2. ใบมรณบัตร
3. สำเนารายงานชันสูตรพลิกศพ
4. สำเนาบันทึกประจำวันของตำรวจ
5. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านประทับ "ตาย" ของผู้เอาประกันภัย
6. สำเนาหนังสือเดินทางของผู้เอาประกันภัย
7. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับประโยชน์
8. เอกสารอื่นๆที่บริษัทร้องขอตามความจำเป็น
1. แบบฟอร์มการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนที่กำหนดโดยบริษัท
2. สำเนาหนังสือเดินทางของผู้เอาประกันภัย
3. หนังสือยืนยันการล่าช้า / ชำรุดเสียหาย ที่ออกให้โดยผู้ขนส่ง
4. เอกสารอื่นๆที่บริษัทร้องขอตามความจำเป็น
1. แบบฟอร์มการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนที่กำหนดโดยบริษัท
2. หนังสือยืนยันการพลาดการต่อเที่ยวบินและระบุสาเหตุของการพลาดการต่อเที่ยวบินซึ่งออกโดยผู้ขนส่ง
3. สำเนาหนังสือเดินทางของผู้เอาประกันภัย
4. สำเนาตั๋วเครื่องบิน
5. เอกสารอื่นๆที่บริษัทร้องขอตามความจำเป็น
1. แบบฟอร์มการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนที่กำหนดโดยบริษัท
2. หนังสือยืนยันการพลาดการต่อเที่ยวบินและระบุสาเหตุของการพลาดการต่อเที่ยวบินซึ่งออกโดยผู้ขนส่ง
3. สำเนาหนังสือเดินทางของผู้เอาประกันภัย
4. สำเนาตั๋วเครื่องบิน
5. เอกสารอื่นๆที่บริษัทร้องขอตามความจำเป็น